ว่าด้วยเรื่องการแนะนำตัวของเรา,คำถามตลกๆ

สวัสดีดิฉันชื่อนางสาวพรนภา สิงห์เทียน ม.4 ชื่อเล่น เนส









ช่วงคำถามตลกๆ
1.อะไรเอ่ย ทำไม
โลหะ/เหล็ก

2.พอลล่ากระโดดลงไปในน้ำแล้วทำไมผมไม่เปียก
เพราะผมไม่ได้กระโดดลงไป

3.หยาดเข้าโรงพยาบาล แล้วหยาดเป็นอะไร

หยาดเป็นประธาน

4ใชมรมดลตรีกลัวอะไรชมรมจิกซอ

5.ผลไม้อะไรเรียนเก่ง
ผลไม้เกรดA

6.ปลาช่อนเป็นลูกใคร
ไก่แก่

7.มดอะไรใหญ่กว่ามดเอ็กซ์
มดXL

ว่าด้วยเรื่อง7สิ่งลึกลับในโรงเรียนญี่ปุ่น 3-1

3.ผีสงคราม

มีเรื่องเล่ากันว่าเรื่องลึกลับของโรงเรียนที่สนามหน้าตึกเรียน หรือสนามฟุตบอล เมื่อถึงเวลากลางคืนประมาณเที่ยงคืนจะกลายเป็นสมรภูมิของเหล่านักรบหรือซามูไรที่เสียชีวิตต่อสู้เข่นฆ่ากัน พร้อมเสียงปืนไฟ เสียงปืนใหญ่ เสียงร้องโอดโอยของคนกำลังบาดเจ็บและบางครั้งยังเห็นซามูไรหัวขาด อวัยวะถูกตัด ยังคงเดินไปมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในสมัยสงครามครั้งที่ 2 มีทหารญี่ปุ่นที่รักษาการในประเทศล้มตายจากการโจมตีทางอากาศเป็นจำนวนมาก ที่น่าแปลกคือวิญญาณของทหารเหล่านี้กลับสิงสถิตอยู่ในโรงเรียนเก่าญี่ปุ่นเกือบทั่วประเทศ พร้อมเรื่องเขย่าขวัญ อย่างเช่น ได้ยินเสียงกรีดร้องในห้องสุขา ที่เป็นวิญญาณเด็กผู้หญิงทุกข์ทรมานจากการตายเพราะสำลักควันในช่วงการโจมตีทางอากาศและมีระเบิดทิ้งที่โรงเรียน โทรศัพท์จากโรงยิมที่ไม่ได้ถูกใช้งานหากคุณต่อสายจะได้บยินเสียงโจมตีทางอากาศ ทางเดินระเบียงตอนกลางคืนคุณจะพบวิญญาณทหารญี่ปุ่นเดินไปมา

2.ผีในห้องน้ำโรงเรียน

เรื่องผีในห้องน้ำเก่าของโรงเรียนที่โด่งดังที่สุดคือฮานาโกะที่มีตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนที่จะถูกเสริมแต่งเติมเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงผมม้าในชุดนักเรียนอนุบาลสีส้มและผูกโบว์ขนาดใหญ่  บ้างก็ว่าถูกขังในห้องน้ำจนออกมาไม่ได้และขาดใจตายไป หรือตายในระหว่างการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกที่ 2 ในขณะซ่อนตัวในห้องน้ำโรงเรียนการปรากฏตัวของคุณฮานาโกะจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน เช่น ต้องเข้าห้องน้ำประมาณ 5 โมงเย็นเธอจะปรากฏตัว หรือหากต้องการพบคุณฮานาโกะ ลองเคาะประตูห้องน้ำซึ่งปิดไว้และไม่มีใครอยู่ 3 ครั้งและถามว่า “ฮานาโกะซังอยู่ไหม” (หรือฮานาโกะมาเล่นกันเถอะ) หากมีเสียงตอบรับ “ค่ะ” แสดงว่าฮานาโกะอยู่ใน นอกจากคุณฮานาโกะแล้วยังมีผีตัวหนึ่งที่มีความน่ากลัวไม่แพ้คุณฮานาโกะนั้นคือ ผีที่ชื่อว่ายามิโกะซังซึ่งเป็นนักเรียนหญิงที่ฆาตกรโรคจิตฆ่าในขณะเข้าห้องน้ำชั้นที่ 2 ของโรงเรียนในตอนเย็น จนกลายเป็นวิญญาณอาฆาตสิงสถิตในห้องน้ำซึ่งเล่ากันว่ารอยเลือดของเธอซึ่งกระเซ็นติดโถส้วมจนกลายเป็นรอยเปื้อนที่เหมือนใบหน้าของผู้หญิงกำลังปวดร้าว ทำให้ห้องโรงเรียนอื่นๆมีรอยเปื้อนแบบนั้นไปด้วย บางโรงเรียนก็มีมือลึกลับพุ่งออกมาแล้วดึงเหยื่อที่ใช้โถส้วมลากเข้าไป บางเรื่องก็เป็นเรื่องยามิโกะซังกับเสื้อคลุมสีแดงที่เธอมักถามนักเรียนที่กำลังใช้โถส้วมว่าอยากใส่เสื้อแดงไหม หากตอบว่าอยากจะถูกยามิโกะซังฆ่าตายอย่างสยดสยองและละแลงเลือดบนเหยื่อคล้ายกับใส่เสื้อสีแดง และเหยื่อจะกลายเป็นมิยาโกะซังคนต่อไป และนอกจากนี้ยังมิยาโกะซังกับกระดาษชำระที่มิยาโกะซังร้องขอกระดาษชำระหน่อย “หากตอบว่าจะให้” มิยาโกะซังจะโผล่ออกมาด้วยสภาพเปื้อนเลือดก่อนที่จะพูดไปว่า “ไม่ใช่กระดาษ ต้องการผมของเธอต่างหาก” ก่อนที่มอยาโกะจะกระชากผมของเหยื่อลงไปโถส้วม เหลือเพียงทิชชู่เปื้อนเลือดห้องน้ำ

1.เด็กชายลึกลับซาโตรุคุง

เรื่องผีที่ได้รับได้รับความนิยมก็คือการเล่นกับผี การอัญเชิญผีเพื่อทดสอบความกล้า ยังคงเป็นเรื่องท้าทายในหมู่เด็กประถมญี่ปุ่นโดยหนึ่งในนั้นก็คือการเรียก “ซาโตรุคุง” การเรียกซาโตรุคุงนั้นแบบย่อๆ คือเริ่มแรกให้ใช้เหรียญ 10 เยนหยอดลงในโทรศัพท์สาธารณะ โทรเข้ามือถือตนเอง จากนั้นก็พูดว่า “ซาโตรุคุง วาโตรุ จงมาเถอะ” พูด 3 ครั้ง และครั้งที่ 3 ให้พูดว่า “ซาโตรุคุงถ้ามาแล้วตอบด้วย” และเมื่อท่องเสร็จ แล้วมือถือตนเอง หากไม่มีอะไรผิดพลาด ภายใน 24 ชั่วโมง จะมีเสียงโทรศัพท์ดังจากมือถือที่ปิดอยู่ นั้นคือโทรศัพท์ของซาโตรุคุงนั่นเอง โดยซาโตรุคุงเป็นเด็กน้อยลึกลับ ที่ตอบคำถามได้ทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเมื่อรับโทรศัพท์ซาโตรุคุงจะพูดว่า “อยู่ข้างหลังแล้วนะ” และตอนนั้นคุณจะสามารถคำถามซาโตรุคุงได้ข้อหนึ่ง หากมัวแต่อ้ำๆอึ้งๆคิดคำถามไม่ออก หรือเหลียวไปมองข้างหลัง ซาโตรุคุงจะนำตัวคุณไปยังปรโลก ไม่มีใครทราบว่าที่มาของซาโตรุคุงคือใคร บ้างก็ว่าเป็นเด็กชายที่ผีสาวปากฉีกฆ่าตาย แต่เรื่องราวของซาโตรุคุงยังเป็นที่โจษจันในหมู่เด็กประถม โดยเฉพาะในหมู่เด็กสาวที่มีความรัก อยากรู้ว่าคนที่ตนชอบนั้นหลงรักตนหรือเปล่า เธอเลยมักขอให้ซาโตรุคุงทำนายเสมอ

ว่าด้วยเรื่อง7สิ่งลึกลับในโรงเรียนญี่ปุ่น 7-4

เราเคยดูรายการหนึ่ง(running man)ที่เขาไปถ่ายทำในญี่ปุ่น มีคนโดนลงโทษให้เข้าไปในบ้านผีสิง เราเลยนึกขี้นมาว่า ญี่ปุ่นนี่ทำบ้านผีสิงออกมาน่ากลัวจัง เลยนึกไปถึง7สิ่งลึกลับในโรงเรียนญี่ปุ่น ความจริงว่าจะเอาไทยแต่พอดีว่าไม่มีไอเดียว่าจะเอาแบบไหนดี เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลย

7.รูปปั้นหินนิโนมิยะ คินจิโร่เดินได้
นิโนมิยะ คินจิโร่ เป็นชื่อของชาวญี่ปุ่นที่มีชีวิตอยู่ในช่วง 1787-1856 เป็นลูกชาวนาที่ยากจนในจังหวัดซากามิ ที่ไม่ทิ้งการศึกษา  เขาเชื่อว่าความรู้จะทำให้ครอบครัวของเขามีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นซึ่งชาวบ้านพบเห็นก็คือเขามักอ่านหนังสือพร้อมกับแบกฟืนเสมอ และสุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิตและถูกยกย่องว่าเป็นนักศึกษาแห่งญี่ปุ่น ที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษาจะต้องมีรูปปั้นของนิโนมิยะ คินจิโร่นี้ในชุดยูกาตะแบกฟืนอยู่ด้านหลังพร้อมอ่านหนังสือไปด้วย เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เด็กๆ ให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การเรียน แต่โรงเรียนบางแห่ง รูปปั้นหินนิโนมิยะ คินจิโร่กลับกลายเป็นเรื่องลึกลับประจำโรงเรียนไป เมื่อมีเรื่องเล่าว่ามีผู้พบเห็นรูปปั้นนิโมมิยะสามารถเคลื่อนไหวเองได้ และวิ่งไปรอบโรงเรียนตอนกลางคืน และเมื่อใกล้สว่างก็จะรีบกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง และทำตัวเป็นรูปปั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนเชื่อว่าที่รูปปั้นเดินได้ก็เนื่องจากเขานั้นทำแต่งานและการเรียนทำให้เขาไม่มีเวลาเที่ยวเหมือนเด็กคนอื่นๆจนเป็นเหตุทำให้รูปปั้นมีพลังชีวิตสามารถเดินได้ในที่สุด

6.วิญญาณในลู่ว่ายที่ 4
มีตำนานเล่าว่าที่สระว่ายน้ำโรงเรียนประถมมีผีสิง นั้นคือวิญญาณลู่ว่ายที่ 4 ถือว่าเป็นลู่ว่ายอาถรรพ์ เพราะมีดวงวิญญาณพเนจรอยู่ ที่มักดึงเด็กหรือใครสักคนที่ว่ายน้ำด้านบนลงไปก้นสระหรือทำให้เป็นตะคริว จนทำให้คนๆนั้นจมน้ำตายในที่สุด ที่มาของวิญญาณในลู่ว่ายที่ 4 เชื่อว่า ครั้งหนึ่งวิญญาณตนนั้นเคยเป็นคน เป็นนักว่ายน้ำที่เก่งกาจ หากแต่ต้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะเดินทางมาแข่งขันว่ายน้ำรายการใหญ่ทำให้วิญญาณดังกล่าวไม่เกิดเพราะมีเรื่องห่วงทางโลก จึงสิงที่ลู่ที่ 4 และกลายเป็นวิญญาณที่โผล่มาว่ายน้ำตอนค่ำคืนกลางคืนและรอคนที่ท้าว่ายน้ำของตน

5.ห้องศิลปะและห้องวิทยาศาสตร์

ห้องศิลปะและห้องวิทยาศาสตร์เป็นห้องที่มีปรากฏการณ์ลึกลับใน 7 เรื่องลึกลับของญี่ปุ่นเสมอ เนื่องจากเป็นห้องที่มีความเก่าแก่ มีบรรยากาศวังเวง เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่มีเรื่องผีๆ มากมาย โดยเพลงที่เล่นก็มี “For Elise” และ “Moonlight” หากใครได้ยินครบ 4 ครั้ง หรือไม่ก็รูปภาพของบีโธเพ่นหรือโยฮันน์ เซบาสเตียน มาที่ตั้งอยู่กลางห้องดวงตาสามารถขยับได้และมันจะจ้องมองคุณและบางครั้งก็มีสีหน้าที่โกรธเกี้ยวที่ห้องศิลปะก็มีจำพวกรูปโมนาลิซ่าสามารถเคลื่อนไหวกลอกลูกตาและกระดิกขนคิ้วได้หรือไม่ก็ตุ๊กตาสำหรับวาดภาพสามารถลุกขึ้นมาเต้นได้ ส่วนห้องวิทยาศาสตร์ก็ เช่น รูปปั้นจำลองแสดงอวัยวะภายในของคนจู่ๆ ก็เคลื่อนไหวและวิ่งในยามค่ำคืน

4.อาถรรพ์บันได 13 ขั้น
บันไดในโรงเรียนประถมญี่ปุ่นหลายแห่งมีสภาพที่ค่อนข้างเก่า ประกอบกับทางเดินแคบๆ บรรยากาศวังเวง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญในหมู่เด็กขึ้น เช่น บันไดโรงเรียนประถมถูกเชื่อมต่อในมิติอื่น หากเดินบันไดชั้นสามขึ้นชั้นสี่ในตอนกลางคืนอาจหลงไปมิติอื่น และไม่มีทางกลับมาอีกเลย อาถรรพ์บันไดที่ได้รับความนิยมที่สุด คือเรื่องอาถรรพ์บันได 13 ขั้น ซึ่งปกติแล้วบันไดโรงเรียนประถมจะมี 12 ขั้น ซึ่งบันไดขั้น 13 จะถูกเพิ่มขึ้นมาอย่างลึกลับ โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีอดีตเคยมีเด็กนักเรียนตกบันไดเพราะเหยียบขั้น 13 กลิ้งตกลงมาคอหักตาย ทั้งๆที่บันไดแห่งนี้มีเพียง 12 ขั้น ส่งผลทำให้เด็กดังกล่าวกลายเป็นวิญญาณร้ายที่คอยจับเหยื่อที่เป็นเด็กที่พลาดเหยียบบันไดขั้นที่ 13 สู่โลกแห่งความตายเช่นเดียวกันตน โดยทุกค่ำคืนบันไดจะเพิ่มจำนวนจาก 12 ขั้น เป็น 13 ขั้นด้วยตัวมันเอง

ว่าด้วยเรื่องของการอ่านหนังสือเรียน

เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านหนังสือในบางเล่ม ทุกๆคนก็อาจมีหนังสือที่ชอบเป็นพิเศษและมักจะอ่านมันบ่อยๆ หลายๆคนก็มักจะไม่ชอบอ่านหนังสือเรียน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยสาเหตุก็มักจะมาจากการไม่เข้าใจ การขี้เกียจ การเบื่อหน่าย โดยเราแนะนำว่าหากจะอ่านหนังสือเรียนนั้นควรอ่านในรายวิชาที่เราชอบ และก็ค่อยๆไปหาอ่านหรือค้นหาในเน็ตต่อ ส่วนวิชาที่เราไม่ชอบหรือไม่อยากอ่านก็ทำใจแล้วก็อ่านนิดนึงก็ยังดี หนังสือเรียนเราไม่แนะนำให้อ่านในตอนที่เครียดหรือกำลังอารมณ์ไม่ดี ยังไงก็ตามจะอ่านหรือไม่อ่านก็เรื่องของตัวของเราเอง หากกดดันตัวเองมากเกินไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ขออภัยสำหรับผู้ที่ไม่ได้สาระอะไรด้วย

ว่าด้วยเรื่อง Harvest Moon Grand Bazaar

Harvest Moon Grand Bazaar
เริ่มแรกเรานั้นเป็นชาวนาที่ย้ายมาใหม่ในเมืองนี้ โดยเนื้อเรื่องคือเรามาช่วยพัฒนาตลาดที่นี่ เราจะต้องนำผลผลิตที่ได้จากการทำฟาร์มหรือสิ่งของที่ต้องการขายไปขายที่ตลาด โดยในแต่ละครั้งหลังจากวันที่นำของไปขายจะมีการประกาศอันดับราคาที่ได้ขายไปและคนที่บริการ(ตอบ)ลูกค้าได้ดีที่สุดจะมีการมอบของ ตามแต่ว่าเราพัฒนาตลาดไปได้เท่าไหร่ ในตลาดนั้นจะมีร้านอาหาร ร้านขายสัตว์ ร้านขายอุปกรณ์ในการทำอาหาร ร้านอื่นๆ ตัวละครในภาคนี้จะมีเสียงพูด(นิดเดียว) ตัวละครจีบได้มี5ชาย5หญิงรวมตัวละครพิเศษ โดยภาคนี้จะมีคู่แข่งทางความรัก มีความสดของอาหารโดยหากไม่อยากให้มันเน่าก็ต้องอัพเกรดคลังเก็บของ เทศกาลนั้นในปีนึงจะมีแค่13เทศกาลเท่านั้น เป็นเกมที่ค่อนข้างจะน่าเบื่ออยู่บ้างแต่หากเล่นเวลายามว่างก็เพลินเลยทีเดียว