นิโนมิยะ คินจิโร่ เป็นชื่อของชาวญี่ปุ่นที่มีชีวิตอยู่ในช่วง 1787-1856 เป็นลูกชาวนาที่ยากจนในจังหวัดซากามิ ที่ไม่ทิ้งการศึกษา เขาเชื่อว่าความรู้จะทำให้ครอบครัวของเขามีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นซึ่งชาวบ้านพบเห็นก็คือเขามักอ่านหนังสือพร้อมกับแบกฟืนเสมอ และสุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จในชีวิตและถูกยกย่องว่าเป็นนักศึกษาแห่งญี่ปุ่น ที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษาจะต้องมีรูปปั้นของนิโนมิยะ คินจิโร่นี้ในชุดยูกาตะแบกฟืนอยู่ด้านหลังพร้อมอ่านหนังสือไปด้วย เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เด็กๆ ให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การเรียน แต่โรงเรียนบางแห่ง รูปปั้นหินนิโนมิยะ คินจิโร่กลับกลายเป็นเรื่องลึกลับประจำโรงเรียนไป เมื่อมีเรื่องเล่าว่ามีผู้พบเห็นรูปปั้นนิโมมิยะสามารถเคลื่อนไหวเองได้ และวิ่งไปรอบโรงเรียนตอนกลางคืน และเมื่อใกล้สว่างก็จะรีบกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง และทำตัวเป็นรูปปั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนเชื่อว่าที่รูปปั้นเดินได้ก็เนื่องจากเขานั้นทำแต่งานและการเรียนทำให้เขาไม่มีเวลาเที่ยวเหมือนเด็กคนอื่นๆจนเป็นเหตุทำให้รูปปั้นมีพลังชีวิตสามารถเดินได้ในที่สุด
6.วิญญาณในลู่ว่ายที่ 4
มีตำนานเล่าว่าที่สระว่ายน้ำโรงเรียนประถมมีผีสิง นั้นคือวิญญาณลู่ว่ายที่ 4 ถือว่าเป็นลู่ว่ายอาถรรพ์ เพราะมีดวงวิญญาณพเนจรอยู่ ที่มักดึงเด็กหรือใครสักคนที่ว่ายน้ำด้านบนลงไปก้นสระหรือทำให้เป็นตะคริว จนทำให้คนๆนั้นจมน้ำตายในที่สุด ที่มาของวิญญาณในลู่ว่ายที่ 4 เชื่อว่า ครั้งหนึ่งวิญญาณตนนั้นเคยเป็นคน เป็นนักว่ายน้ำที่เก่งกาจ หากแต่ต้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะเดินทางมาแข่งขันว่ายน้ำรายการใหญ่ทำให้วิญญาณดังกล่าวไม่เกิดเพราะมีเรื่องห่วงทางโลก จึงสิงที่ลู่ที่ 4 และกลายเป็นวิญญาณที่โผล่มาว่ายน้ำตอนค่ำคืนกลางคืนและรอคนที่ท้าว่ายน้ำของตน
5.ห้องศิลปะและห้องวิทยาศาสตร์
ห้องศิลปะและห้องวิทยาศาสตร์เป็นห้องที่มีปรากฏการณ์ลึกลับใน 7 เรื่องลึกลับของญี่ปุ่นเสมอ เนื่องจากเป็นห้องที่มีความเก่าแก่ มีบรรยากาศวังเวง เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่มีเรื่องผีๆ มากมาย โดยเพลงที่เล่นก็มี “For Elise” และ “Moonlight” หากใครได้ยินครบ 4 ครั้ง หรือไม่ก็รูปภาพของบีโธเพ่นหรือโยฮันน์ เซบาสเตียน มาที่ตั้งอยู่กลางห้องดวงตาสามารถขยับได้และมันจะจ้องมองคุณและบางครั้งก็มีสีหน้าที่โกรธเกี้ยวที่ห้องศิลปะก็มีจำพวกรูปโมนาลิซ่าสามารถเคลื่อนไหวกลอกลูกตาและกระดิกขนคิ้วได้หรือไม่ก็ตุ๊กตาสำหรับวาดภาพสามารถลุกขึ้นมาเต้นได้ ส่วนห้องวิทยาศาสตร์ก็ เช่น รูปปั้นจำลองแสดงอวัยวะภายในของคนจู่ๆ ก็เคลื่อนไหวและวิ่งในยามค่ำคืน
4.อาถรรพ์บันได 13 ขั้นบันไดในโรงเรียนประถมญี่ปุ่นหลายแห่งมีสภาพที่ค่อนข้างเก่า ประกอบกับทางเดินแคบๆ บรรยากาศวังเวง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญในหมู่เด็กขึ้น เช่น บันไดโรงเรียนประถมถูกเชื่อมต่อในมิติอื่น หากเดินบันไดชั้นสามขึ้นชั้นสี่ในตอนกลางคืนอาจหลงไปมิติอื่น และไม่มีทางกลับมาอีกเลย อาถรรพ์บันไดที่ได้รับความนิยมที่สุด คือเรื่องอาถรรพ์บันได 13 ขั้น ซึ่งปกติแล้วบันไดโรงเรียนประถมจะมี 12 ขั้น ซึ่งบันไดขั้น 13 จะถูกเพิ่มขึ้นมาอย่างลึกลับ โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีอดีตเคยมีเด็กนักเรียนตกบันไดเพราะเหยียบขั้น 13 กลิ้งตกลงมาคอหักตาย ทั้งๆที่บันไดแห่งนี้มีเพียง 12 ขั้น ส่งผลทำให้เด็กดังกล่าวกลายเป็นวิญญาณร้ายที่คอยจับเหยื่อที่เป็นเด็กที่พลาดเหยียบบันไดขั้นที่ 13 สู่โลกแห่งความตายเช่นเดียวกันตน โดยทุกค่ำคืนบันไดจะเพิ่มจำนวนจาก 12 ขั้น เป็น 13 ขั้นด้วยตัวมันเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น